ch.erawan hot-line :
>> 02-431-1000
menu

Next-Gen Everest Wildtrak

Facebooktwittermail
LINE it!
โปรฯNext-GenEverestWildtrak

แคมเปญแรงๆ จากช.เอราวัณ

รับดอกเบี้ย 1.89% นาน 48 เดือนและฟรีประกันภัยชั้น 1

ออกรถได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ที่ฟอร์ด ช.เอราวัณ อ้อมใหญ่
เราพร้อมให้คุณเป็นเจ้าของก่อนใคร

…จบที่นี่ที่เดียว

…รับประกันความพึงพอใจ ยินดีให้คำปรึกษา…

  • รับปรีกษาปัญหาทุกเคส
  • ไม่ว่าอาชีพไหนก็ออกรถได้ (พ่อค้าแม่ค้า , พนักงานบริษัท , ข้าราชการ , รัฐวิสาหกิaจ , เจ้าของกิจการ , รับเหมา , รับจ้าง)
  • รับรถไว
  • ไฟแนนซ์ไม่ยุ่งยาก
  • มั่นใจกับคุณภาพและชื่อเสียงยาวนานกว่า 50 ปี
  • ศูนย์บริการครบวงจร ศูนย์ซ่อมสีตัวถัง บริการโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ประสบการณ์กว่า 20 ปี จบในที่เดียว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

ID Line : @FordCh.Erawan

โทร  : 094-439-0999

Facebooktwittermail
รูปลักษณ์ภายนอก

ฟังค์ชั่นครบ การขับขี่ที่สะดวกสบาย เพื่อการออกสำรวจโลกกว้างที่สมบุกสมบัน

ด้วยดีไซน์ภายนอกอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ Widetrak โดดเด่นด้วยสีตัวถัง Luxe Yellow shade พิเศษเฉพาะรถตระกูล Wildtrak  ผสานความสะดวกสบายที่เหนือกว่าระดับพรีเมี่ยมในทุกรายละเอียด 

Ford Next-Gen Everest Wildtrak จะมอบความสบายเหนือระดับให้การผจญภัยในทุกเส้นทาง

การออกแบบกระจังหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อม Hoof Lettering คำว่า “Wildtrak” ที่ด้านหน้า  ทั้ง H บาร์ที่กันชน กรอบกระจังหน้า

โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วดีไซน์ใหม่ เฉพาะรุ่น Wildtrak เท่านั้น เก็บรายละเอียดด้วยสี Bolder Grey

สมรรถนะทรงพลัง

เครื่องยนต์ Bi-Turbo 2.0 ลิตรอันทรงพลัง ให้กำลังสูงสุด 210PS แรงบิด 500Nm ที่ผ่านการทดสอบอย่างสุดขั้น เพื่อให้แน่ใจถึงสมรรถนะและความเชื่อมั่นระดับพรีเมียม

ไฟหน้า Matrix LED

พร้อมไฟสูงแบบ Glare-free Everest Wildtrak จะตรวจจับแสงสว่างจากผู้ขับขี่ฝั่งตรงข้าม และบล็อกแสงจ้าที่อาจทำให้ผู้ขับขี่ตาพร่า และยังมี Static และ Dynamic Bending Lights ด้วย

ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED รูปทรง C-Clamp ที่เด่นชัดตั้งแต่แรกเห็น 

ราวหลังคาแบบยกสูง

ราวหลังคาแบบยกสูง รับน้ำหนักบรรทุกได้ถึง 100 กิโลกรัมขณะขับขี่ ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมรับการผจญภัยในทุกรูปแบบการเดินทางของคุณ

Facebooktwittermail
Color

สีของ Ford Next-Gen Everest Wildtrak มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี

1. สีขาวมุก SNOW FLAKE WHITE PEARL  2. Arctic White สีขาว  3. สีเงิน ALUMINUM METALLIC  4. สีเหลือง LUXE YELLOW

5. สีแดงส้ม SEDONA ORANGE  6. สีดำ ABSOLUTE BLACK

Facebooktwittermail
รูปลักษณ์ภายใน

ภายในของ Next-Gen Everest Wildtrak ตกแต่งพิเศษไม่เหมือนใคร ออกแบบมาหรูหรา ดุ ดัน และพรีเมียม โดดเด่นด้วยด้วยโลโก้ซิกเนเจอร์ “Wildtral” ที่เบาะคู่หน้า และการเดินด้ายสีส้ม ตัดกับดีไซน์ภายในโทนสีดำ พร้อมกับแผงคอนโซลไฮเทคระดับพรีเมียม รูปลักษณ์ใหม่ที่ผสมผสานกับคลัสเตอร์ดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้ว พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 12 นิ้ว เพื่อเพิ่มองค์ประกอบและมอบฟังก์ชันที่ดีที่สุด โดดเด่นไม่ซ้ำ 

หน้าจอแสดงผล Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว พร้อม SYNC® 4A

Everest Wildtrak มาพร้อมทัชสกรีนแนวตั้งขนาด 12 นิ้วที่ควบคุมระบบอินโฟเทนเมนต์ทรงพลัง SYNC® 4A ของฟอร์ด พร้อมหน้าจอแยกที่ปรับแต่งได้และแผงแสดงข้อมูลตามต้องการที่พร้อมใช้งานที่ด้านล่างของจอ โดยจะแสดงข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เช่น ระบบนำทางของรถหรือที่เชื่อมต่อ สมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อ และอีกมากมาย

หลังคา Panaramic Moonroof และเบาะแถว 2 -3 ที่พับได้

เพิ่มความหรูหรา ด้วยหลังคา Panoramic Moonroof แบบปรับไฟฟ้า และเบาะแถว 2 กับแถวที่ 3 ที่สามารถพับได้แบบราบ โดยเบาะแถว 3 เป็นแบบพับไฟฟ้า ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมลุยทุกการเดินทาง

ev_in5

เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสี Ebony สลับกับผ้า Suede สี Miko

ภายในมาพร้อมเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสี Ebony สลับกับผ้า Suede สี Miko พร้อมเดินด้ายสีส้ม Cyber Orange และปักตัวอักษร Wildtrak ที่บริเวณพนักพิงคู่หน้า เบาะคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบอุ่นและระบายความร้อนมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

หน้าจอแสดงผลดิจิทัลแบบคลัสเตอร์ขนาด 12.4 นิ้ว

ห้องโดยสารไฮเทคของ Everest Wildtrak โดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผลดิจิทัลแบบคลัสเตอร์ ซึ่งมาแทนที่ปุ่มหมุนแอนะล็อก โดยสามารถปรับแต่งคลัสเตอร์เพื่อให้แสดงข้อมูลมากหรือน้อยได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่

เกียร์อัตโนมัติแบบ Electric Shifter (E-Shifter)

มิติใหม่แห่งการควบคุมรถยนตร์ในมือคุณ กับเกียร์อัตโนมัติแบบ Electric Shifter ที่มาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูง ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) ช่วยให้ผู้ขับขี่จอดรถในพื้นที่แคบได้อย่างปลอดภัยเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ระบบจะช่วยบังคับพวงมาลัย ปรับเกียร์ เร่งความเร็วและเบรก ทั้งในการจอดรถแบบขนานหรือเข้าช่องจอดได้อย่างง่ายดาย

Facebooktwittermail
Specification

พลังขับเคลื่อนที่ทรงพลัง

สมรรถนะที่พร้อมพาคุณไปให้ถึงจุดหมายที่ไกลกว่าเดิม

เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ใหม่

เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ใหม่ ขนาด 2.0 ลิตร  มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด  แบบ E- Shifter มอบพละกำลังสูงสุด 210 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร พร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ 4×4 มอบพลังขับเคลื่อนที่สมบูรณ์แบบเพื่อเอาชนะทุกความท้าทายบนท้องถนน  พร้อมพาคุณก้าวข้ามขีดจำกัดให้ไกลกว่าเดิม ระบบเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ใหม่จะจัดการการใช้งานเทอร์โบสองตัว อย่างชาญฉลาด เพื่อช่วยเพิ่มแรงบิด การตอบสนอง และพลังขับเคลื่อน เครื่องยนต์นี้ไม่เพียงแต่ให้พลังขับเคลื่อนเท่านั้น แต่ยังผ่านการออกแบบทางวิศวกรรมมาเพื่อลดเสียงเครื่องยนต์ให้เบาลง ประหยัดน้ำมันมากขึ้น  

Next-Gen Everest Wildtrak ติดตั้ง ดิสก์เบรกหน้าและหลัง พร้อมครีบระบายความร้อน, ล้ออัลลอย 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 255/55 R20

ส่วนตัวเลือกโหมดการขับขี่มากถึง 6 โหมด ได้แก่ Normal, Eco, Tow/Haul, Slippery, Mud/Ruts และ Sand เพื่อสมรรถนะสูงสุดสำหรับการเดินทางบนทุกสภาพพื้นผิว (Best in Class)

  • โหมดปกติ (Normal) : เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนในชีวิตประจำวัน และสภาพถนนทุกรูปแบบ
  • โหมดประหยัด (Eco) : เพื่อการขับขี่ที่ประหยัดน้ำมันสูงสุด เหมาะกับการขับขี่ทางไกลที่ใช้ความเร็วคงที่ โดยระบบจะรักษากำลังเครื่องยนต์และเกียร์ให้เหมาะสม สามารถทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
  • โหมดลากจูงและบรรทุก (Tow/Haul) : เหมาะสำหรับการลากจูงวัตถุที่มีน้ำหนักมาก โดยช่วยปรับอัตราทดเกียร์ให้เหมาะสม เพื่อการส่งกำลังและการหน่วงกำลังของเครื่องยนต์บนสภาพทางที่ลาดชัน พร้อมเพิ่มน้ำหนักพวงมาลัยเพื่อการควบคุมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
  • โหมดถนนลื่น (Slippery) : ใช้สำหรับการขับขี่บนสภาพถนนที่มีความลื่นสูง เช่น  ขณะฝนตก หรือจากคราบน้ำมัน ซึ่งเสี่ยงต่อการเสียการทรงตัว โดยระบบจะควบคุมการหมุนของล้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรีที่ตอบสนองรวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนและการควบคุมให้กับคุณ
  • โหมดโคลน (Mud/Ruts) : สำหรับขับลุยแบบออฟโร้ด โดยระบบจะช่วยรักษาสมดุลการเคลื่อนที่ของตัวรถ ขณะที่หมุนล้ออย่างรวดเร็วเพื่อกำจัดดินโคลนที่ติดอยู่ที่ดอกยาง
  • โหมดทราย (Sand) : อีกโหมดสำหรับการขับขี่แบบออฟโร้ด โดยที่โหมด ‘ทราย’ นี้ทำได้มากกว่าแค่ขับตะลุยทราย แต่ยังช่วยให้คุณขับลุยไปบนแอ่งทราย หรือสภาพทางที่ดินมีความร่วนสูง โดยระบบจะปรับอัตราการส่งกำลัง อัตราการทดเกียร์ และการทรงตัว เพื่อรักษาสมดุลการเคลื่อนที่ของตัวรถ พร้อมช่วยย่นระยะเบรก

 

Facebooktwittermail
ความปลอดภัย

ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ขั้นสูง

  • ถุงลมนิรภัย 7 จุด ได้แก่ คู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่า
  • ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน 
  • สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System) พร้อม Electric Brake Booster
  • ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll-Over Mitigation)  
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control)
  • เบรกมือไฟฟ้า

 

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่นไวลด์แทรค ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะครบครัน ได้แก่

  • ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Fully Automated Active Park Assist System) (First in Class)  
  • ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop&Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ
  • ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB)
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System)
  • ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน 
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane Departure Alert)
  • ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด (Blind Spot Information System – BLIS® with cross-traffic alert)
  • กล้องมองรอบคัน 360 องศา
  • ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง 
  • ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive Steering Assist) (First in Class) 
  • ระบบตรวจเช็กลมยาง
 
Facebooktwittermail
โทรเลย